ย้อมผ้าสีแดงจากสีธรรมชาติ การเลือกชนิดพืช และวิธีการย้อม

สีแดงจากครั่ง
ครั่ง เป็นเพลี้ยหอยชนิด Laccifer lacca ในวงศ์ Lacciferide ตัวเมียไม่มีปีก เมื่อเป็นตัวอ่อนระยะแรกนั้น มีขาและหนวด เคลื่อนไหวได้ เมื่อลอกคราบเวลาต่อมาจะไม่มีขา จึงหยุดอยู่กับที่ ดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นไม้ยืนต้น และผลิตสารที่เรียกว่า ขี้ครั่ง ซึ่งย้อมผ้าได้เป็นสีแดง

วิธีการย้อม
เก็บขี้ครั่งที่เกาะตามกิ่งต้นจามจุรีหรือต้นพุทรา มาตากแดดให้แห้ง ตำป่นให้ละเอียดแล้วแช่น้ำมะขามเปียก นานประมาณ 6 ชั่วโมง จากนั้นตั้งไฟต้มให้เดือด กรองเอากากออกแล้วนำเส้นใยลงย้อม เมื่อสีติดเส้นใยทั่วดีแล้วจึงนำขึ้นล้างน้ำตากให้แห้ง สีครั่งจะติดเส้นใยไหมดีกว่าเส้นใยฝ้ายนิยมใช้ย้อมเส้นใยไหม

สีแดงจากรากยอหรือรากยอป่า
ยอ เป็นต้นไม้ชนิด Morinda citrifolia Linn, ในวงศ์ Rubiaceae ใบคล้ายใบหูกวางแต่สีเขียว เข้มและหนากว่า รากมีสีแดง

วิธีการย้อม
คัดเก็บรากยอที่แก่ได้ที่เพื่อจะได้สีแดงเข้ม นำรากยอมาสับหรือหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำไปต้มในน้ำสะอาดจนเดือด เคี่ยวจนน้ำเป็นสีแดงเข้มดี จึงยกลงมาจากเตา กรองกการากยอออกให้ เหลือแต่น้ำสี แล้วนำเส้นใยชุบน้ำ บิดให้หมาดแล้วนำไปตากจนแห้ง รากยอหรือรากยอป่า นิยมใช้ ย้อมเส้นใยฝ้าย

สีแดงจากดอกคำฝอย
คำฝอย เป็นไม้ล้มลุกชนิด Carthamus tinctorius Linn, ในวงศ์ Compositae ดอกคำฝอยใช้ ทำยาและใช้ย้อมสีผ้าได้

วิธีการย้อม
นำดอกคำฝอยแห้งมาตำให้ละเอียด ห่อด้วยผ้าขาวบาง แล้วเตรียมน้ำด่างด้วยการ นำต้นผักขมหนามที่แก่จนเป็นสีแดงหรือสีน้ำตาลมาตากแดดให้สนิท แล้วนำไปเผาไฟให้เป็นขี้เถ้าที่ ได้มาผสมกับน้ำสะอาด นำดอกคำฝอยผสมกับน้ำด่างแล้วคั้นกรองเอาน้ำสีออกมา จะได้น้ำสีแดง นำ เส้นใยลงแช่ไว้จนดูดซึมสีทั่วและเสมอกันดีแล้วจึงนำขึ้นล้างน้ำ ผึ่งให้แห้ง สีจากดอกคำฝอยใช้ย้อมได้ ทั้งเส้นใยไหม